รอยร้าวในอาคาร และการตรวจสอบ (ต่อ)

2.4.2      รอยร้าวเนื่องจากโครงสร้างรับน้ำหนักบรรทุกเกินกำลัง
                      เมื่อโครงสร้างรับน้ำหนักบรรทุกเกินกำลังจะเกิดการแอ่นตัวมาก รอยร้าวส่วนใหญ่มักจะเกิดบริเวณช่วงกลางของโครงสร้างที่รับน้ำหนักบรรทุกนั้นๆ

2.4.2.1  คาน
                หากคานมีขนาดเล็กเกินไป หรือรับน้ำหนักบรรทุกมากเกินกำลังจะแอ่นตัวมากจนเกิดรอยร้าวและรอยแตกร้าวที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะดังนี้
                1)  ช่วงกลางคานรอยแตกร้าวจะเกิดขึ้นที่ใต้ท้องคานบริเวณช่วงกึ่งกลางความยาวมีลักษณะเป็นรูปตัวยู คือ แตกจากด้านล่างและต่อเนื่องขึ้นแนวดิ่งทั้งสองด้านของคานสังเกตตรงตำแหน่งรอยแตกร้าวจะพบว่าด้านล่างจะแตกกว้างกว่าด้านข้าง นั่นแสดงว่าตำแหน่งที่เริ่มแตกร้าวเกิดขึ้นจากใต้ท้องคานแล้วลุกลามออกด้านข้าง เมื่อคานแอ่นตัวมากขึ้น รอยร้าวก็จะเกิดเพิ่มมากขึ้นดังในรูปที่ 2.8

 

รูปที่ 2.8  รอยร้าวช่วงกลางคานเป็นรูปตัวยูรอยแตกจะเริ่มจากใต้ท้องคาน แล้วแตกลามออก
                  ด้านข้างของคานในแนวดิ่ง
                2)  ช่วงปลายคาน รอยร้าวที่ปลายคานจะเริ่มเกิดขึ้นที่ด้านบนและแตกร้าวลงด้านข้างของคานซึ่งอาจเป็นได้ทั้งแนวดิ่งและแนวเอียง เมื่อปลายคานด้านหนึ่งแตกร้าวปลายอีกด้านหนึ่งก็มักจะแตกร้าวในลักษณะเดียวกัน โดยทั่วไปรอยร้าวที่ปลายคานจะเกิดขึ้นภายหลังรอยร้าวที่กลางคาน และมักจะเกิดขึ้นเพราะคานแอ่นตัวมาก ดังนั้นเมื่อพบว่าบริเวณช่วงกลางคานเริ่มมีรอยแตกร้าวและวิเคราะห์แล้วว่าน่าจะเป็นเพราะการแอ่นตัวควรรีบดำเนินการแก้ไขก่อนที่จะเกิดการแอ่นตัวมากจนกระทั่งปลายคานแตกร้าวตามไปด้วยดังในรูปที่ 2.9


 
รูปที่ 2.9  รอยแตกร้าวที่ปลายคานเนื่องจากคานรับน้ำหนักไม่ไหวนั้นมักจะเกิดขึ้นที่ปลาย
                  ทั้งสองข้างของคาน รอยแตกจะเกิดในลักษณะเฉียงหรือแนวดิ่ง

                            2.4.2.2  พื้น
                สำหรับพื้น เมื่อแบกภาระรับน้ำหนักบรรทุกมากเกินไปจะเกิดการแอ่นตัวและมีรอยแตกร้าวตามตำแหน่งต่าง ๆ ดังนี้            
                1)  ท้องพื้น หากเป็นพื้นคอนกรีตหล่อในที่ชนิดเสริมเหล็กสองทาง (Two-Way Slab) จะเกิดรอยแตกที่ท้องพื้นบริเวณช่วงกลางรอยแตกร้าวจะมีลักษณะเฉียงจากบริเวณกึ่งกลางนั้นเข้าหาเสาทั้งสี่มุมอาจเกิดให้เห็นทั้งสี่รอยหรือน้อยกว่าดังในรูปที่ 2.10 หากเป็นพื้นคอนกรีตหล่อในที่ชนิดเสริมเหล็กทางเดียว (One-Way Slab) จะเกิดรอยแตกร้าวที่กลางท้องพื้นเป็นเส้นตั้งฉากกับแนวเหล็กเสริมหลักดังในรูปที่ 2.11


 
รูปที่ 2.10  พื้นคอนกรีตเสริมเหล็กสองทางรับน้ำหนักไม่ได้จะเกิดการแอ่นตัว และแตกร้าว
                    ที่ท้องพื้นเป็นลักษณะเฉียงเข้าหาเสาทั้งสี่มุม


รูปที่ 2.11  พื้นชนิดเสริมเหล็กทางเดียวเมื่อรับน้ำหนักบรรทุกเกินกำลังจะแอ่นตัวและแตกร้าว
                          ที่ท้องพื้นในทิศทางตั้งฉากกับเหล็กเสริมหลัก

                2)  ขอบพื้น เมื่อพื้นรับน้ำหนักแล้วเกิดการแอ่นตัว พื้นด้านบนบริเวณขอบคานทั้งสี่ด้านจะแตกร้าว และอาจมีรอยแตกที่มุมเสาทั้งสี่มุมดังในรูปที่ 2.12


 
 รูปที่ 2.12  รอยร้าวที่ด้านบนของพื้นเมื่อพื้นรับน้ำหนักแล้วเกิดการแอ่นตัวที่บริเวณมุมเสาทั้งสี่มุม
                      และขอบคาน

                            2.4.2.3  เสา
                เมื่อเสารับน้ำหนักบรรทุกไม่ได้จะเกิดการโก่งเดาะคอนกรีต ช่วงกลางเสาจะระเบิดออกและเหล็กเสริมหักงอ เมื่อเสาเริ่มโก่งเดาะก็จะเกิดรอยแตกร้าวบริเวณด้านของเสาที่โก่งออกเพราะเป็นด้านที่รับแรงดึง ส่วนด้านที่โค้งเข้าจะไม่มีรอยแตกร้าวเนื่องจากเป็นด้านที่รับแรงอัดรอยแตกร้าวจะมีลักษณะเป็นปล้อง ๆ แนวนอนลักษณะการแตกร้าวของเสาและแนวเหล็กเสริมที่บิดงอเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยในการวิเคราะห์สาเหตุได้ดี ตัวอย่างเช่น
                เสาที่แตกร้าวเป็นปล้อง ๆ ในแนวนอนและเกิดเพียงด้านใดด้านหนึ่ง หรือคอนกรีตแตกออกจนเห็นเหล็กเสริมหลักทั้งหมดบิดงอไปด้านเดียวกันลักษณะเช่นนี้เป็นเพราะมีโครงสร้างส่วนอื่นดึงรั้งจนทำให้เกิดการโน้มเอียง หรือเป็นเพราะเสาต้นนั้นมีความสูงชะลูดมากเกินไปจนทำให้โก่งงอไปด้านใดด้านหนึ่ง
                คอนกรีตบริเวณแกนกลางเสาแตกระเบิดออกเหล็กเสริมหลักทุกเส้นหักงอเป็นรูปตัว U แสดงว่าคอนกรีตในช่วงดังกล่าวไม่สามารถรับน้ำหนักได้ และส่วนมากมักจะเกิดจากคอนกรีตขาดความต่อเนื่อง เหล็กเสริมจึงต้องเป็นตัวรับแรงอัดแทน เมื่อรับน้ำหนักไม่ได้จึงหักงอ
                            2.4.2.4  ผนัง
                กรณีที่โครงสร้างหลักรับน้ำหนักไม่ได้จะส่งผลให้ผนังที่อยู่ติดกับโครงสร้างนั้นแตกร้าว เช่น เมื่อคานแอ่นตัวผนังซึ่งอยู่ใต้คานจะถูกกดทับจนแตก รอยแตกร้าวมักจะเกิดขึ้นบริเวณช่วงกลางผนังและเป็นรอยแตกร้าวแนวดิ่งดังในรูปที่ 2.13

รูปที่ 2.13  ผนังแตกแนวดิ่งเนื่องจากคานเหนือผนังแอ่นตัว

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ระบบเสาและคาน (Skeleton Frame or Column and Beam)

Diaphragm Wall